เช็คด่วน! สัญญาณเตือนที่บ่งบอกธุรกิจกำลังประสบปัญหา ควรรีบปรึกษาสถาบันการเงิน

     การแพร่ระบาดโควิด 19 ระลอกใหม่ มีผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องในวงกว้างต่อเศรษฐกิจหลายภาคส่วน ทำให้สถานะทางการเงินของธุรกิจบางกลุ่มย่ำแย่ลง สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การอยู่รอดให้ได้ในวิกฤต แต่รอดอย่างยั่งยืนและมีความสุขนั้น ผู้ประกอบการต้องทำอย่างไร นี่คือโจทย์ที่ท้าทายยิ่งกว่า อย่าลืมว่าในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส ขอเพียงไม่ท้อ และคิดบวก

     และนี่คือ 3 สัญญาณเตือนที่จะบอกว่า ธุรกิจของคุณกำลังประสบปัญหา ต้องรีบปรึกษาสถาบันทางการเงิน เพื่อบรรเทาภาระหนี้ หรือลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้ให้พอกับรายจ่าย ทั้งนี้เพื่อให้ธุรกิจสามารถข้ามผ่านช่วงวิกฤตไปให้ได้

รายได้ลดลง

1.1 ยอดขายลดลง ยอดขายขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นเรื่องปกติ  แต่จะกลายเป็นเรื่องไม่ปกติหากยอดขายที่ตกนั้นไม่เป็นไปตามกราฟปกติของธุรกิจ เช่น บางธุรกิจอาจมียอดตกในช่วงเมษายน เพราะวันหยุดเยอะ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องรีบปรับกลยุทธ์ทางการตลาด อย่าปล่อยให้ยอดขายตกลงเรื่อยๆ เพราะกำไรก็จะหายไปเรื่อยๆ จนถึงทางตันในที่สุด หากการปรับกลยุทธ์การขายต้องใช้เวลา ผู้ประกอบการควรรีบติดต่อสถาบันการเงิน เพื่อปรึกษาหาทางลดภาระค่าใช้จ่ายก่อนที่เครดิตเราจะมีปัญหาแล้วเรื่องอื่นจะตามมาถาโถม

1.2 ขาดนวัตกรรม หรือการพัฒนา วิกฤตแต่ละเหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สินค้าที่เคยสร้างรายได้อาจทำให้ผู้ประกอบการตายใจคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ต้องรู้จักจะปรับเปลี่ยน ต่อยอด หรือแตกไลน์ธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่หยุดนิ่ง หากการพัฒนาต้องอาศัยเงินลงทุน ผู้ประกอบการควรปรึกษาสถาบันการเงิน เพิ่มเงินลงทุน เพื่อไม่ให้ธุรกิจเกิดสะดุดหรือชะงักเสียก่อน เพราะมันอาจจะสายเกินไป

2.รายจ่ายเท่าเดิมในขณะที่รายได้ลดลง บางครั้งการเพิ่มรายได้อาจไม่ได้ทำกันง่ายๆอย่างที่คิด ดังนั้นเมื่อรายได้ลดลง ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลดรายจ่ายลงตามด้วยเพื่อไม่ให้กระแสเงินสดติดลบ แน่นอนว่ารายจ่ายคงที่หรือรายจ่ายประจำอาจลดลงได้ยากเพราะเป็นรายจ่ายที่เป็นภาระผูกพัน แต่หากรายจ่ายคงที่นั้นเป็นภาระมาก อาจจะต้องพยายามเจรจาลดรายจ่ายส่วนนี้ให้ได้ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ หรือ หนี้ระยะยาว เป็นต้น ส่วนรายจ่ายที่แปรผันอาจยังพอลดได้ แต่อาจต้องเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง เช่น ค่าไฟฟ้า  ทั้งนี้การลดรายจ่ายเป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันแก้ปัญหา ผู้ประกอบการอาจไม่สามารถแก้ไขได้เพียงผู้เดียวได้ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องกล้าเผชิญความจริงไม่ว่าจะกับพนักงาน คู่ค้า หรือสถาบันการเงิน เพื่อเจรจาต่อรองนำธุรกิจผ่านวิกฤตช่วงระยะเวลาหนึ่งให้ได้

3.หนี้สินจ่ายไม่ไหว ลูกหนี้ที่ดีทุกคนย่อมไม่อยากผิดสัญญากับเจ้าหนี้ และไม่ต้องการให้ปัญหาขยายไปกันใหญ่ ดังนั้น เมื่อผู้ประกอบการประสบปัญหาหนี้สินไม่สามารถชำระหนี้ที่ตกลงกันไว้ได้ ทางที่ดีที่สุดคือ การเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงิน แสดงความจริงใจและตั้งใจให้เจ้าหนี้รู้ว่า ถึงแม้ขณะนี้เราจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ แต่ก็ยังให้ความร่วมมือกับเจ้าหนี้เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินทุกวิถีทาง ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่เจ้าหนี้ทุกรายพึงประสงค์จะได้รับจากลูกหนี้ ทั้งนี้เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และหากผู้ประกอบการมีลูกหนี้หลายรายหรือมากกว่าหนึ่งสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการควรติดต่อกับสถาบันการเงินหลักหรือสถาบันการเงินที่มีหนี้มากที่สุดก่อนเพื่อนัดหมายเจ้าหนี้รายอื่นมาประชุมร่วมกันในการกำหนดเงื่อนไขที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

     สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคน ถ้าเราข้ามผ่านช่วงนี้ไปได้ เราจะได้รับบทเรียนที่สำคัญในการทำธุรกิจในอนาคต และถ้าไม่มีวิกฤตนี้เกิดขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ก็ต้องมีอยู่แล้วที่รอให้เราเข้าไปแก้ไข เมื่อวิกฤตทำร้ายเรา เราก็ยิ่งต้องแข็งแกร่งและยืนหยัดสู้ เราเชื่อว่ายังมีสิ่งดีๆ รออยู่และโอกาสนี้แหละที่จะทำให้คุณได้กลายเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ เป็นนักสู้ที่แท้จริงที่ไม่ว่าเรื่องร้ายใดๆ ก็จะไม่สามารถทำร้ายคุณได้

      ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประกอบการด้วยมาตรการต่างๆ ไม่ว่าท่านต้องการลดค่างวดผ่อนชำระ หรือขอเงินทุนเพิ่มเติม หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครใช้บริการได้ทางเว็บไซต์ธนาคาร หรือสาขาใกล้บ้านได้ หรือ ibank Call Center 1302