TOP
background-image

18 กันยายน 2563


การแสวงหาปัจจัยยังชีพในการดำเนินชีวิตบนโลกนี้ถือเป็นหลักพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะทุกชีวิตนั้นมีความต้องการทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภคในการดำเนินชีวิตของตน ดังปรากฏหลักธรรมคำสอนในอัลกุรอ่านที่ว่า “พวกเจ้าจงบริโภคในสิ่งที่อัลเลาะห์ พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ซึ่งเป็นที่อนุมัติที่ดี” (บทอันนะห์ล : 114)
ตลอดจนคำสอนของบรมศาสดามูฮัมมัด (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า “แท้จริง สิ่งที่อนุมัติ นั้นชัดแจ้ง สิ่งที่ต้องห้าม ก็ชัดแจ้ง จงจำไว้เถิดว่า ในร่างกายนั้นมีเนื้อก้อนหนึ่ง เมื่อมันดี ร่างกายนั้นก็ดีด้วย แต่เมื่อมันเสีย ร่างกายก็จะเสียไปด้วย และสิ่งนั้นก็คือ หัวใจ”(รายงานโดย บุคอรีและมุสลิม)
ฉะนั้นการรู้จักพอเพียงในทรัพย์สินที่ตนหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงในหนทางที่สุจริต ไม่ละโมบ โลภ และอยากได้ของผู้อื่น โดยการทุจริตคอรัปชัน หรือแย่งชิงเพื่อให้ได้มา ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการเบี่ยงเบนทางจริยธรรม จนเป็นเหตุให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อน และไม่มีความสุขในชีวิตการรู้จักพอเพียง ด้วยเหตุนี้เองเพื่อเป็นการบูรณาการหลักธรรมคำสอนของศาสนาอิสลามบางส่วนเกี่ยวกับการป้องกันทุจริต-คอรัปชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องทำหน้าที่บริหารกิจการ ธุรกิจค้าขาย พนักงานบริษัท พนักงานองค์กร ตลอดจนภาคสังคม และทุกสัมมาอาชีพๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ
ความซื่อสัตย์ จะเป็นปัจจัยในการรักษาชื่อเสียง ทรัพย์สิน รักษาจิตวิญญาณ รักษาวิชาความรู้ และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ดังอัลกุรอ่านได้ระบุว่า “แท้จริงเราอัลเลาะห์ได้นำเสนอภารกิจความรับผิดชอบแก่ชั้นฟ้าแผ่นดินและขุนเขาทั้งหลาย แต่พวกมันปฏิเสธที่จะแบกรับมันและหวั่นกลัวจากผลของการแบกรับนั้น ในขณะเดียวกันมนุษย์ได้แบกรับมันไว้ (บทอัล-อะหฺซาบ : 72 ) และคำสอนของบรมศาสดามูฮัมมัด (ซ.ล.) ที่ว่า "ผู้ใดที่คดโกง เขาก็ไม่ใช่พวกเรา" (รายงานโดย บุคอรี)
ความซื่อสัตย์แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆได้มากมาย กล่าวคือ
1. ความซื่อสัตย์ทางวิชาชีพ ทุกสาขาวิชาชีพ จำเป็นจะต้องรักษาความซื่อสัตย์ประเภทนี้ไว้ อาทิ ครูบาอาจารย์ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความทุ่มเทความอุตสาหะอย่างเต็มที่ให้การถ่ายทอดความรู้ ให้แก่ผู้เป็นศิษย์ จะต้องสั่งสอนและถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้อง และปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างที่แก่ลูกศิษย์และคนทั่วไป จะปิดบังหรือบิดเบือนความรู้ไม่ได้ หรือนักบัญชี ไม่มีการปิดบัง ซ่อนเร้น หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตัว ถ้าหากมีการตรวจสอบพบว่าคนในโรงงานกำลังประพฤติผิดกฎหมาย ด้วยการโกงบัญชี หรือปัญหาอื่น ๆ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีจะต้องรายงานไปโดยตรงตามข้อเท็จจริง หรือสื่อมวลชน ไม่สร้างข่าว หรือเขียนข้อมูลขึ้นมาเอง ไม่เหยียดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ของบุคคล นำเสนอข่าวด้วยความเป็นจริง หรือทนายความ ไม่สมรู้เป็นใจโดยทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อทำพยานหลักฐานเท็จ หรือเสี้ยมสอนพยานให้เบิกความเท็จ หรือโดยปกปิดซ่อนเร้นอำพรางพยานหลักฐานใด ๆ หรือแม่ค้าขายออนไลน์ ส่งสินค้าหมดอายุ ลูกค้าไม่สามารถใช้สินค้าได้ ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา เป็นต้น
อิสลามใช้ให้ทุกคนปฏิบัติงานอย่างซื่อตรง ตรงต่อเวลา ไม่บิดพลิ้ว หลีกเลี่ยง คดโกง ทุจริต ในการปฏิบัติงาน ท่านบรมศาสดามูฮัมมัด เคยเดินไปตามท้องตลาด เห็นพ่อค้าคนหนึ่ง นำสินค้ามาตั้งเป็นกองๆ ท่านเอามือของท่านล้วงไปใต้กองสินค้านั้น ปรากฏว่าสินค้านั้นเปียกแฉะ ท่านจึงถามคนขายว่า นี่มันอะไรกัน ? คนขายตอบว่า มีฝนตกลงมาทำให้สินค้านี้เปียก ท่านจึงถามเชิงตำหนิว่า แล้วท่านทำไมไม่เอามันมากองให้ผู้คนได้เห็นชัดๆเล่า พลางท่านกล่าวต่อไปอีกว่า ผู้ที่หลอกลวง ไม่นับเป็นพวกของฉัน
2.ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ผู้ศรัทธาจะต้องดูแลรักษาสุขภาพของเขาให้มีความแข็งแร็งกระปรี่กระเปร่ามีความสุขทั้งกายและใจ โดยเหตุนี้อิสลามจึงใช้ให้มุสลิมรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่ดีเป็นที่อนุมัติห้ามรับประทานอาหารเครื่องดื่มที่ต้องห้าม และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ซากสัตว์ที่ตายเอง สุรา ยาเสพติด นอกจากนี้สิ่งที่เป็นกรรมสิทธิ์ หรือผู้ที่อยู่ภายใต้การรับผิดชอบ เช่น ทรัพย์สิน ตระกูล สามี ภรรยา พ่อแม่ จำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแลเขาเหล่านั้นด้วย
3.การซื่อสัตย์ต่อสามีภรรยา ไม่เว้นแต่ ด้วยการรักษาความลับระหว่างสามีภรรยา ท่านบรมศาสดามูฮัมมัด กล่าวว่า “ในวันกิยามะฮฺ (วันฟื้นคืนชีพ) ผู้ที่ชั่วช้าที่สุด ณ องค์พระผู้เป็นเจ้า คือ ผู้ที่เปิดเผยความลับเรื่องการร่วมประเวณีกับภรรยาของเขา” (รายงานโดย มุสลิม)
4.การซื่อสัตย์ในการตัดสินด้วยความยุติธรรม ท่านอัครสาวกศาสดามูฮัมมัดที่ชื่ออบูซัร เล่าว่า ฉันได้ขอให้ท่านบรมศาสดามูฮัมมัดแต่งตั้งฉันให้รับภาระหน้าที่ในการปกครอง ท่านได้จับไหล่ของฉันพร้อมกับกล่าวว่า “โอ้อบูซัร ท่านนั้นอ่อนแอเกินกว่าที่จะแบกภาระหน้าที่นี้ได้ สิ่งนี้เป็นอะมานะฮฺและมันจะนำมาซึ่งความอัปยศอดสูในวันกิยามะฮฺ นอกจากผู้ที่มีความซื่อสัตย์ที่รับผิดชอบต่อภาระหน้าที่อย่างเคร่งครัดเท่านั้น” (รายงาน โดย มุสลิม) เนื่องจากศาสดามูฮัมมัด รู้บุคลิกนิสัยของอบูซัรมีความอ่อนโยน อะลุ่มอล่วย จึงไม่เหมาะกับงานดังกล่าว
5.การมีความซื่อสัตย์ของผู้นำที่มีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาต่อผู้นำ ทุกตำแหน่งในองค์กรต้องมีความสำนึกในหน้าที่ รับผิดชอบภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้รับความไว้วางใจ
และส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อิสลาม ในยุคทองของอุมัร คอลีฟะห์เครือจักรภพอิสลามท่านที่ 2 เราจะพบว่า ท่านสะอด์ บุตร อบีวักกอศ ได้ส่งมอบสินสงครามไปยังท่านอุมัร อัลค็อตต็อบ ในจำนวนสินสงครามนั้น มีพระแสงดาบของจักรรรดิ์กิสรอ อัญมณี มรกตของจักพรรดิ์รวมอยู่ด้วย เมื่อท่านอุมัร เห็นสิ่งดังกล่าวจึงพูดขึ้นว่า แท้จริงกลุ่มชนหนึ่งได้นำสิ่งนี้มามอบให้แก่ผู้ที่มีความซื่อสัตย์โดยแท้ ผู้ที่อยู่ร่วมกันจึงกล่าวขึ้นว่า เพราะตัวท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ยังองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์มายังพวกท่าน หากว่าท่านเป็นผู้แสวงหาความสุข โดยขาดความซื่อสัตย์แล้วไซร์ พวกเขาก็ย่อมมีพฤติกรรมเช่นนั้นเหมือนกัน


คัดลอกข้อมูลบางส่วนจาก : สินบน-การทุจริตและประพฤติมิชอบกับข้อชี้ขาดศาสนาอิสลาม สำนักจุฬาราชมนตรี สำนักงานป.ป.ช. , ความซื่อสัตย์ของมนุษย์ ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์

Like

1

Tags

icon-noti