TOP
background-image

27 พฤษภาคม 2563

 

 

ภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน การใช้ชีวิตภายใต้ข้อจำกัด กำเนิดเทรนด์ใหม่ “โลกที่ไม่เหมือนเดิม” (New Normal) ทั้งวิธีคิด การใช้ชีวิต การทำธุรกิจ รวมถึงระบบเศรษฐกิจสู่ปัญหาปากท้อง ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่เยี่ยวยาคนไทยไม่ทิ้งกัน ทำให้เราได้เห็นหลายประเทศรัฐบาลเริ่มเข้าไปอัดฉีดเศรษฐกิจ เช่น รัฐบาลอินเดียโอนเงินให้กับประชาชนที่ยากจน, อินโดนีเซียเพิ่มรัฐสวัสดิการให้กับประชาชนมากกว่า 10 ล้านครัวเรือน, อังกฤษและฝรั่งเศสจ่ายเงินชดเชยค่าแรงงานถึง 80% เข้าสู่โลกใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
เราจึงเห็นมาตรการเยียวยาช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินของรัฐและเอกชนในหลายรูปแบบ ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระ เพิ่มสภาพคล่อง และเสริมความแข็งแกร่งทั้งการเงินส่วนบุคคลและธุรกิจให้ผ่านพ้นไปได้ในสภาวะวิกฤติครั้งนี้ รวมไปถึง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ที่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้ออกวิธีการคิดเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่ เพื่อลดภาระลูกหนี้ให้ก้าวพ้นวิกฤติโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
การคิดเบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่จะคิดบนฐานของเงินต้นค่างวดเฉพาะงวดที่ผิดนัดเท่านั้น จากเดิมที่มีการคิดเบี้ยปรับบนฐานของ “เงินต้นคงค้างทั้งหมด”
เปรียบเทียบการคำนวณเบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้เดิมและใหม่ตามแนวทางธปท.
ฐานเดิม คือ เบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้จะคิดบนฐานของ "เงินต้นคงค้างทั้งหมด" สมมติว่าเราขอเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน 20 ปี จำนวน 240 งวด ในช่วง 2 ปีแรก ผ่อนชำระดีมาโดยตลอด งวดที่ 25 มีปัญหาผ่อนชำระไม่ได้ สถาบันการเงินจะคิดเบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้บนฐานของเงินต้นคงค้างทั้งหมด หมายถึงเงินต้นในงวดที่ 25 ถึงงวดที่ 240 ทั้งหมด
ฐานใหม่ คือ การคำนวณที่คิดบนฐานของ "เงินต้นในค่างวดที่มีการผิดนัดชำระ" เท่านั้น โดยไม่รวมเงินต้นในค่างวดตามสัญญาในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง พูดง่าย ๆ คือ คิดเบี้ยปรับผิดนัดชำระเฉพาะเงินต้นในงวดที่ 25 เท่านั้น โดยจะไม่รวมเงินต้นในงวดที่ 26 ถึงงวดที่ 240
ธนาคารอิสลามกับการคิดเบี้ยปรับ หรือค่าชดเชยความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้ อยู่บนพื้นฐานหลักความยุติธรรมรูปแบบเดียวทั่วโลก บางคนอาจไม่เคยทราบว่าธนาคารอิสลามคำนวณเบี้ยปรับเฉพาะงวดมาตั้งแต่ก่อกำเนิด!
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักชะรีอะฮ์ซึ่งเป็นระบบการเงินที่ใช้หลักยุติธรรมในการปฏิบัติต่อลูกค้า กรณีการให้สินเชื่อ ส่วนใหญ่ธนาคารจะใช้หลักการซื้อขายเชื่อหรือผ่อนชำระ (Bai’ Bithaman Ajil) ซึ่งมีความแตกต่างจากหลักการกู้ยืมที่ใช้ในธนาคารอื่น ดังนั้นเมื่อเป็นหลักการซื้อขาย ธนาคารจะสามารถแจ้งราคาซื้อขายให้ลูกค้าทราบตั้งแต่วันที่ทำสัญญา ซึ่งต่างจากหลักการกู้ยืมที่ธนาคารจะไม่ทราบว่าจำนวนรวมที่ลูกค้าจะต้องจ่ายทั้งหมดตามสัญญานั้นเป็นเงินเท่าใด เพราะดอกเบี้ยนั้นมีการปรับขึ้นลงตลอดเวลา และเมื่อธนาคารอิสลามใช้หลักการซื้อขายเชื่อในการทำธุรกรรมสินเชื่อ ลูกค้าก็มีหน้าที่ผ่อนชำระค่าสินค้าให้ธนาคารเป็นงวดตามที่ตกลงกันอย่างครบถ้วนตรงเวลา ในกรณีที่ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารมีความจำเป็นต้องคิดค่าปรับ เพื่อป้องกันการอาศัยช่องว่างในการสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าที่ไม่สุจริตไม่ปฏิบัติตามสัญญา หากพากันไม่ชำระหนี้ ธนาคารอาจไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ อีกทั้งเพื่อเป็นการให้ลูกค้ารักษาวินัยในการชำระหนี้ เป็นลูกหนี้ที่ดี เพราะศาสนาอิสลามสอนว่า “ผู้มีความสามารถชำระหนี้แต่ไม่ยอมชำระหนี้ คือ ผู้ที่อธรรม” แต่หากลูกค้าเดือดร้อนจริงๆ ธนาคารสามารถผ่อนผันและยกเลิกเบี้ยปรับให้ลูกค้าได้แล้วแต่กรณี

ในเมื่อสัญญาสินเชื่อของธนาคารมาจากหลักการซื้อขาย ดังนั้นหลักการคิดเบี้ยปรับ หรือค่าชดเชยความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารอิสลาม ก็จะแตกต่างจากธนาคารทั่วไปด้วยพื้นฐานการคิดที่ไม่เหมือนกัน ธนาคารอิสลามจะคำนวณเบี้ยปรับหรือค่าชดเชยฯ กรณีลูกหนี้ผิดนัดชำระจากค่างวดที่ค้างชำระ ซึ่งรูปแบบการคิดนี้ธนาคารถือปฏิบัติมาตั้งแต่ธนาคารก่อกำเนิดเพราะถือเป็นหลักการสากลของระบบธนาคารอิสลามทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และนอกจากรูปแบบการคิดคำนวณที่แตกต่างกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างธนาคารอิสลามและธนาคารทั่วไปคือการไม่รับรู้เบี้ยปรับเป็นรายได้ของธนาคาร เพราะโดยหลักการซื้อขายที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะฮ์นั้น ราคาซื้อขายเมื่อตกลงกันระหว่างธนาคารและลูกค้าจะไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้น (สามารถลดได้เท่านั้น) ดังนั้นการเรียกเก็บเบี้ยปรับเพิ่มเติมกรณีลูกค้าผิดนัดชำระหนี้นั้น เป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบ(สังคม) เบี้ยปรับที่เรียกเก็บได้หลังจากหักค่าเสียหายต่างๆตามจริงแล้ว หากมีส่วนเหลือธนาคารจะต้องนำเงินไปบริจาคสาธารณประโยชน์ต่อไป

และนี่คือความงดงามของระบบธนาคารอิสลาม ที่มีความชัดเจนในหลักการ หลีกเลี่ยงความอธรรมที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร ระบบธนาคารอิสลามก็ยึดมั่นในความยุติธรรมไม่เปลี่ยนแปลง

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
Kapook : แบงก์ชาติ เปลี่ยนการคิด ดอกเบี้ยผิดชำระ จ่ายไม่ทัน
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์: ไวรัสเขย่าโลก..!! วัคซีนยุค New Normal

Like

1

Tags

icon-noti