ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมหารือแนวทางการเกื้อหนุนพี่น้องชาวมูโนะ

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ณ กระทรวงยุติธรรม ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร.ต.อ.ภูมินทร์ พึ่งสุจริต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือถึงแนวทางการเกื้อหนุนพี่น้องชาวมูโนะ โดยมีนายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ว่าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าร่วม ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กลับมาสู่สภาพปกติ

ดร.ทวีลาภ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ได้ดำเนินการลงพื้นที่และให้การช่วยเหลือไปแล้ว 3 มาตรการ คือ

1.มาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อของธนาคารที่ได้รับผลกระทบทางตรงทั้งหมด 13 ราย ซึ่งที่อยู่อาศัย และ/หรือสถานประกอบการได้รับความเสียหาย และลูกค้าสินเชื่อของธนาคารที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมอีก 30 ราย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือคู่ค้าได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ และส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือการดำรงชีพของลูกค้า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31กรกฎาคม 2566

• พักชำระหนี้เงินต้น ชำระเฉพาะกำไรระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โดยให้ขยายระยะเวลาออกไปไม่เกินระยะเวลาที่พักชำระ
• กำหนดอัตรากำไรตามสัญญาสินเชื่อปัจจุบัน
• ยกเว้นค่าชดเชยผิดนัด (Late charge) ที่เกิดขึ้นทั้งจำนวนจนถึงวันที่ปรับปรุงบัญชี

2.การสร้างอาชีพในระยะเร่งด่วนให้แก่ประชาชนชาวมูโนะ ก่อนที่จะมีการสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งตอนนี้ได้หารือถึงแนวทางการฟื้นฟูตลาดมูโนะให้เป็นตลาดชุมชนที่จะมีการจำหน่ายสินค้าในราคาถูกตามวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่มูโนะดั้งเดิม โดยมีการลงพื้นที่ทำประชาคมและสำรวจความต้องการของชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางในการฟื้นฟูที่ตรงตามความต้องการของชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว และ

3.การฟื้นฟูในระยะยาว ไอแบงก์พร้อมบริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ต้องการสินเชื่อเพื่อการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ หรือจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์ตกแต่งภายในและภายนอกบ้าน ธนาคารพร้อมอำนวยความสะดวกด้านแหล่งเงินทุนทันที โดยออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 อาทิ

• สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้อุปโภคบริโภคใน
  ครัวเรือน เช่น จัดหาของใช้ในครัวเรือน และเครื่องอำนวยความสะดวกในครอบครัว เป็นต้น โดยให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย ผ่อนได้นานสูงสุด 5 ปี ไม่มีหลักประกัน
• สินเชื่อเพื่อการก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติมที่อยู่อาศัย เพื่อฟื้นฟูผู้ประสบภัยที่ได้
  รับความเสียหายจากเหตุกาณ์ดังกล่าว ซึ่งในกรณีบุคคลทั่วไป ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1,000,000 บาทต่อราย และในกรณีเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท และสามารถผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี พร้อมยกเว้นค่าประเมินหลักประกันเต็มจำนวน
• สินเชื่อเงินทุนสำหรับผู้ประกอบอาชีพรายย่อย เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ
  (ไม่รวมหาบเร่ แผงลอย) หวังช่วยยกระดับความเป็นอยู่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้วงเงินสินเชื่อ 30,000 - 100,000 บาทต่อราย ผ่อนได้นานสูงสุด 5 ปี พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียม Front End Fee อีกด้วย

นอกจากนี้ ไอแบงก์ ยังได้เปิดบัญชีระดมเงินบริจาคเยียวยาผู้ประสบภัยมูโนะจากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุระเบิดในตลาดมูโนะ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2566 และส่งมอบเงินบริจาคเพื่อเยียวยาเบื้องต้น 150,000 บาท แก่ครอบครัวผู้ได้รับภัยพิบัติผ่านอดีตรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) และ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส (นายสนั่น พงษ์อักษร) ณ โรงเรียนบ้านมูโนะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 และรอการให้ความช่วยเหลือส่งมอบเงินบริจาคส่วนที่เหลืออีกจำนวน 129,079.74 บาท แก่ทางการต่อไป ดร.ทวีลาภกล่าวทิ้งท้าย