
ตกเย็นช่วงค่ำลงของวันพฤหัสบดีที่ 23 เมายน 2563 พี่น้องชาวไทยมุสลิมคงได้รับทราบผลการดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 (พ.ศ.2563) จากการประกาศจุฬาราชมนตรี ผู้นำด้านศาสนาของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย กันแล้ว
แม้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันจะยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง การถือศีลอดของอิสลามิกชนก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ เพราะไวรัสโคโรน่า โควิด -19 ไม่ใช่สาเหตุของการให้งดการถือศีลอดแต่อย่างใด แต่สำหรับบางประเด็นในเรื่องน้ำลายของผู้ถือศีลอดที่ยังมีข้อสงสัยกันอยู่ นั้น ซึ่งจากประกาศจุฬาราชมนตรี ฉบับที่ 4/2563 ได้ระบุไว้ว่า การกลืนน้ำลายที่ไม่เจอปนเศษอาหารที่อยู่ในช่องปากก็ไม่ทำให้การถือศีลอดนั้นเสียไปหรือขาดตกบกพร่อง กลับเป็นการรักษาร่างกายและลำคอให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นไม่ต้องถ่มน้ำลายหรือบ้วนทิ้งในที่สาธารณะ เพราะจะทำให้เป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด -19 ได้อีกทางหนึ่ง
ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า เชื้อไวรัสโควิด -19 สามารถแพร่เชื้อติดต่อกันจากการสัมผัสสารคัดหลั่งที่มีอยู่ในร่างกายของผู้ติดเชื้อ เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เป็นต้น ดังนั้น การถ่มน้ำลายหรือบ้วน ทั้งในที่สาธารณะนอกจากจะก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย เพราะหากการถ่มหรือบ้วนน้ำลายในครั้งนั้น ไปทำให้แพทย์ พยาบาล หรือผู้อื่นต้องเจ็บป่วย ผู้กระทำอาจจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 295 โทษจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือ 297 โทษจำคุก 6 เดือนถึง 10 ปี ปรับ 10,000 ถึง 20,000 บาท แล้วแต่กรณีความร้ายแรงของการเจ็บป่วย และหากทำให้แพทย์ พยาบาล หรือผู้อื่น ถึงแก่ความตายจากการติดเชื้อดังกล่าว จะมีความผิดตามมาตรา 290 มีโทษจำคุก 3-15 ปี ด้วย โดยถึงแม้ว่าการถ่มหรือบ้วนน้ำลายในครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้ใครเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต การถ่มหรือบ้วนน้ำลายในพื้นที่สาธารณะ เช่น ถนน ก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ2535 มาตรา 35 ห้ามมิให้ผู้ใด (1) บ้วนหรือถ่มน้ำลาย เสมหะ บ้วนน้ำหมาก สั่งน้ำมูก เทหรือทิ้งสิ่งใดๆ ลงบนถนนหรือบนพื้นรถหรือพื้นเรือโดยสาร มีโทษปรับ ตามมารตรา 54 เป็นเงิน 2,000 บาท
ดังนั้น การถ่มหรือบ้วนน้ำลาย นอกจากจะไม่จำเป็นในการถือศีลอดแล้ว การถ่มหรือบ้วนน้ำลายในพื้นที่สาธารณะยังมีโทษทางกฎหมายอีกด้วย บางคนอาจจะเคยชินแต่ไอแบงก์เชื่อว่าทุกอย่างฝึกฝนได้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนอดทนต่อสถานการณ์ที่เราประสบอยู่ และขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เราทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปโดยเร็ว จากความเมตตาของพระองค์....อามีน
ที่มาข้อมูล
: คัดลอกจากประกาศจุฬาราชมนตรี มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดฯ ฉบับที่4/2563
: คัดลอกจากไทยรัฐออนไลน์ www.thairath.co.th /news/local/1800631
Like
0
Tags
